วันเสาร์, กันยายน 25, 2553

Robert Johnson ผู้ขายวิญญาณให้ซาตานเพื่อแลกกับอำนาจการบรรเลงเพลงบลูส์


ชื่อเสียงของนักดนตรีผิวสีคนนี้ โรเบิร์ต จอห์นสัน (Robert Johnson) เป็นที่เลื่องลือมานานแล้ว ความลึกลับที่คนเล่นกีตาร์ไม่ได้เรื่องกลับเล่นกีต้า ร์บูลส์ได้ดียิ่งกว่ามืออาชีพ ภายในระยะเวลา40วัน ทำให้เขากลายเป็นผู้ลบล้างทฤษฎีที่ว่า การฝึกฝนเพื่อที่จะร้องและเล่นกีต้าร์บูลส์ให้ได้ยอด เยี่ยมจำเป็นต้องอาศัยกระบวนการและเวลายาวนาน ถูกโยนทิ้งตกไปจากความเชื่อของใครหลายคนที่รู้จักเรื ่องราวของเขา
สิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้คนรุ่นต่อมาคือการบันทึกบทเพลงท ั้งสิ้น 29 เพลงในช่วงระหว่างปี 1936 – 1937 ที่ใช้เวลาในการบันทึกเพียงไม่กี่วัน งานเพลงบูลส์ (Blues) ที่เขาทิ้งไว้ให้ศิลปินรุ่นหลังๆ ได้ไถ่ถามเรียนรู้ ล้วนเต็มไปด้วยพลังและจิตวิญญาณชนิดที่นักดนตรีบูลส์ ทุกคนต้องฟัง...บางคนถึงขนาดกล่าวว่า ฝีมือกีต้าร์ของเขานั้นว่ามหัศจรรย์แล้ว แต่เสียงร้องของเขานั้นมหัศจรรย์ยิ่งกว่า..เพราะมันเ หมือนกับเสียงของบางสิ่งบางอย่างที่อธิบายไม่ได้...
มรดกแห่งความสามารถที่เขาทิ้งไว้ให้รุ่นหลังได้ศึกษา คือบทเพลงที่ได้รับการบันทึกเอาไว้ 29 เพลง ทั้งหมดใช้เวลาบันทึกจริงๆเพียง 5 วันเต็มเท่านั้น 3 วันแรกบันทึกใน San Antonio เมื่อพฤศจิกาปี 1936 อีก 2 วันที่เหลือบันทึกที่ Dallas ในอีก 7 เดือนให้หลัง แต่งานเหล่านั้นก็กระจัดกระจายนับแต่นั้น เมื่อเข้าทศวรรษ 60 งานเหล่านี้จึงได้ถูกนำมารวบรวมอีกครั้ง นั่นคือไม่ต่ำกว่า 23 ปีที่เจ้าของผลงานได้จากไปแล้ว King Of The Delta Blues Singer Volume I และ II เป็นอัลบั้มที่ถูกกล่าวขานว่า นักดนตรีบลูส์ทุกคนต้องฟังมันกลายเป็นลัทธิให้บรรดานักดนตรีอย่าง Keith Richards(The Rolling Stones), Eric Clapton, Brain Jones, Johnny Winter , Bob Dylan เป็นต้น บางคนให้นิยามว่าฝีมือกีตาร์ของเขามหัศจรรย์พันลึก แต่เสียงร้องมหัศจรรย์ยิ่งกว่า มันเหมือนสายลมอันเย็นยะเยือกที่ครวญครางหวีดหวิวเมื ่อมันเคลื่อนตัวผ่านสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ Mississipi”
บางคนอธิบายว่าเสียงร้องเขาเหมือนกับเสียงบางอย่างท ี่คุณมักจะได้ยินในป่าลึกเวลาที่คุณอยู่เพียงลำพัง และมันเป็นเสียงที่คุณไม่มีทางอธิบายได้ว่า เป็นเสียงที่เกิดขึ้นจากอะไร มีต้นตอมาจากไหน
เขาเกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 1911บริเวณลุ่มน้ามิสซิสซิปปี และเสียงดนตรีก็เป็นสิ่งที่เขาสนใจมาเนิ่นนาน เครื่องดนตรีชิ้นแรกในชีวิตเขาก็คือ !บเพลงปาก และ ฮาโมนิกา ก่อนที่เขาจะหันมาเอาดีทางด้านกีต้าร์
เริ่มต้นเรื่องราวจากปากคำของผู้เฒ่าแห่งดนตรีบลูส์ ว่า Robert Johnson ในวัยรุ่นเล่นกีตาร์ได้ไม่ดีนัก สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญคือฮาโมนิก้า เพื่อนบ้านที่สำคัญของเขา 2 คน คือนักดนตรีบลูส์รุ่นใหญ่ Willie Brown และ Son House แนะนำให้เขามุ่งมั่นกับฮาโมนิก้าจะดีกว่า เพราสิ่งที่เขาแสดงออกเกี่ยวกับกีตาร์นั้นเป็นเรื่อง พื้นๆ แถมยังดูออกด้วยว่าไม่มีทางไปไหนได้ไกลหากยังดันทุรั งอยู่กับกีตาร์ต่อไป
แล้ว Robert ก็กลับมาหลังจากที่หายไป 40 วันอย่างที่ไม่มีใครได้รับข่าวใดๆทั้งสิ้น เขาปรากฎตัวที่บาร์เล็ก ที่ที่ซึ่ง Willie Brown และ Son House เล่นประจำอยู่ โดยมีกีตาร์สะพายอยู่บนไหล่ เขาได้ขึ้นโชว์ 2-3 เพลง มันกลายเป็นความตื่นตะหนกแก่ผู้เฒ่าทั้งสอง
Robert หายไปด้วยฝีมืออ่อนหัด และกลับมาด้วยฝีมือระดับ Grand Master!! ระหว่างสองจุดนี้ห่างกันเพียงไม่กี่วัน ต่อให้เขาใช้เวลาทั้งหมดที่หายไปฝึกฝนโดยไม่หยุดก็ไมมีทางไปได้ถึงขนาดนั้น
โดยสรุปก็คือเขาต้องค้นพบพลังอำนาจบางอย่าง ความเก่งกาจของเขาได้รับการยืนยันจากคนใกล้ชิดเขาที่ สุด 2 คน คือ Robert “Junior” Lockwood และ Johny Shines ทั้งสองเล่าว่าเขามีความสามารถระดับที่ว่า เมื่อเขาฟังเพลงซักเพลงจากวิทยุหรือเครื่องเล่นแผ่นเ สียงจบลง เขาจะเล่นเพลงๆนั้นได้ทันทีและอย่างสมบูรณ์ด้วยแม้จะ เห็นอยู่ว่าเขาไม่ได้สนใจหรือตั้งใจฟังซักเท่าไหร่
ถึงวันนี้ยังไม่มีมือกีตาร์บลูส์คนใดกล้ากว่าวอ้างว่ เขาสามารถเล่นคันทรี่และเดลต้าบลูส์ ได้ดีเท่า Robert Johnson “ ไม่มีเลย…29 เพลง เมื่อก่อนปี 1937 Robert ทำได้อย่างไร? ฝีมือของเขาควรตั้งอยู่ระดับไหน
ปี 1938 Robert จากโลกนี้ไปด้วยด้วยการดื่มวิสกี้ผสมยาพิษ โดยไม่มีใครบอกได้ว่าเขาอายุเท่าใด (ประมาณกันว่า 26 ) เพราะวันเดือนปีเกิดของเขาไม่ได้รับการยืนยันแน่นอน เพียงคะเนจากภาพถ่าย แต่เชื่อไหม? มีเพียง 3 ภาพที่ได้รับการยืนยันว่าคือภาพของ Robert จริงๆ ที่เหลือเพียงอาจจะใช่ หรือ ควรจะใช่ ทั้งสิ้น
การพิสูจน์ในเวลาต่อมาพบว่าเขาผสมและดื่มวิสกี้แก้วน ั้นด้วยตนเองบางทีนั่นคือช่วงเวลาที่สัญญาถึงเวลาทวงถามและได้รับการสะสาง

เรื่องที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุดคือ Robert ขายวิญญาณให้ซาตานเพื่อแลกกับฝีมืออันเอกอุตรงบริเวณ สี่แยกที่เรียกว่า Delta Crossroad ใน Mississipi!! ซึ่งในภาพยนตร์ Crossroads(1996) ก็ใช้บริเวณนี้เป็นฉากจริง


มีข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับเนื้อเพลงของเขาซึ่ง Steve Lavere ผู้ค้นคว้าเรื่องของ Robert Johnson และเป็นเจ้าของรูปของเขา 2 ใน 3 รูป บอกไว้ว่าในเพลง “Me And The Devil” มีเนื้อร้องประโยคหนึ่งว่า“Hello Satan, I Believe It’s Time To Go” แต่ต้องฟังให้ดีจึงจะพบ การเขียนคำร้องของ Robert นั้นมักชอบที่จะพาดพิงถึงบรรดาภูติผีปีศาจทั้งทางตรง และทางอ้อมอยู่เสมอ เช่นอีกท่อนหนึ่งในเพลง “Cross Road Blues“กล่าวว่า ” Went to the crossroad, fell down on my knees, Asked the Lord above “Have mercy, now save poor Bob, if you please” ฉะนั้นเมื่อไม่มีใครอธิบายสาเหตุอะไรได้ เรื่องราวจึงถูกโยนไปให้ คำสัญญาที่เขาให้ไว้กับใครซักคน ในคืนอันมืดมิดและเดียวดาย ที่ Delta Crossroad”

Eric Clapton เคยกล่าวถึงงานของ Robert ว่า เขามีพลังมากเกินไป มันหมายถึงเจตนาอันแรงกล้าในงานของเขา ความขบถของเขา เขาเหมือนหมาป่าโดดเดี่ยวแต่สวยงาม

Keith Richads กล่าวว่าถ้าผมสามารถกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้ ผมคงยินดีมาก แต่มันไม่อาจจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกอยากฟังงานของ Robert Johnson เพิ่มขึ้นก็เป็นได้ แต่ผมจะบอกว่าถ้าคุณต้องการฟังดนตรีที่ยิ่งใหญ่ คุณต้องฟังงานของชายคนนี้

ทุกวันนี้เพลงของ Robert Johnson ยังคงถูกนำมาเล่นมาตีความครั้งแล้วครั้งเล่า

IF “ClAPTON IS GOD” THEN “ROBERT JOHNSON IS GOD OF GOD!”

นี่คือคำจำกัดความสั้นๆจากนิตยสาร “Q” แห่งอังกฤษ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

รายการบล็อกของฉัน