วันพุธ, ตุลาคม 06, 2553

Rastafarian วงดนตรี The wailer & bob marley

       
     ต้นปีค.ศ. 1967 The Wailer (เดอะ วอรเลอร์)  คือคณะดนตรีกลุ่มแรก ๆ ที่ปวารณาตนนับถือลัทธิรัสตาฟาเรียน  ขณะเดียวกันที่น้า Bob Marley ของเราก็กำลังไว้ผมทรงฟั่นเชือก  หรือ Dreadlock และขณะเดียวกัน  พวกเขาก็สูบกัญชามากขึ้นและอ่านคัมภีร์ไบเบิ้ลมากขึ้น รวมทั้งฝึกพูดภาษาท้องถิ่นของชาวรัสตาร์
       เดอะ เวลเลอร์ เรียนรู้อุดมการชาตินิยม  และความเชื่อในพระเจ้าของคนผิวดำจากพวกรัสตาในเก็ตโต  ย่านสลัมในกรุงคิงตัน  แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารัสตาฟาเรียน  หยั่งรากลงในสังคมจาไมกันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าลัทธินี้แพร่ขยายหลังการปราศรัยของ Marcus Garvey ที่กรุงคิงตันปี ค.ศ. 1927  (มาร์คัส  กาวีย์ คือนักปฏิวัติผู้ทรงอิธิพลของคนจาไมกันผิวสีดำ)


       แม้ไม่มีึหลักการทางศาสนา  พระคัมภีร์  หรือโครงสร้างแห่งศาสนาจักรที่แน่นอน  แต่บรรดาสาวกรัสตาก็เชื่อว่า  องค์พระจักรพรรดิ Heile Selassie I (ไฮเลเซลาสซี - ไอ) ที่หนึ่งแห่งเอธิโอเปีย  คือพระผู้เป็นเจ้าที่มีชีวิต  อยู่เหนือมวลมนุษย์ทั้งปวง  เป็นผู้ควบคุม ราชสีห์ แห่งจูดาห์  ซึ่งก่อนได้รับการสวมมงกุฏนั้นพระองค์มีพระนานเดิมว่ารัสตาฟารี  มาคอนเนน  ซึ่งแปลว่า  พลานุภาพแห่งพระตรีเอกานุภาพ (Power of The Trinity)  ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเมเนคิล  ผู้เป็นบุรุษของกษัตริย์โซโลมอน (King Solomon)  และราชินีชีบา (Queen of Sheba) ที่ปกครองอาณาจักร  เอธิโอเปีย  เป็นถิ่นฐานดั่งเดิมที่พวกเขามา  และไฮเลเซลาสซีก็คือผู้ไถ่บาปของคนดำ   พระเจ้าที่จุติมาเกิดเป็นมนุษย์  ที่จะมาปลดปล่อยคนแอฟริกันและคนดำจากความเป็นทาส  และนำพวกเขาไปสู่ความยุติธรรมในสังคม
       พวกชาวรัสตาร์เชื่อกันว่า ผู้ใดที่มีทรงผมฟั่นเชือกที่ยาวมากเท่าไหร่  คน ๆ นั้นจะมีพลังและอำนาจมากขึ้นด้วย  ทรงผมฟั่นเชือก เป็นสิ่งชี้วัดความเจนจัด  ความปราดเปรื่อง  และมากด้วยความรู้  และยังบอกถึงระยะเวลา  หรือความยาวนานที่รัสตาแมนคนนั้น  ได้หันมานับถือลัทธินี้ด้วย
"พวกเขา่ไว้ผมทรงฟั่นเชือก  แต่ทว่าในหัวใจว่างเปล่า"


       และสำหรับชาวรัสตาแล้ว กัญชาหรือที่พวกเขาเรียกว่า "สมุนไพร" (Herb) มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำสมาธิใน และประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 
    พืชชนิดนี้ถูกให้ค่าว่าเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เหนือกว่าการเสพเพื่อความพึงพอใจ  คือมันมีสภาวธรรมแห่งการบำเพ็ญภาวนาและสมาธิ  และนำเส้นทางให้พวกเขาได้เข้าพบพระเจ้า  พวกรัสตาอ้างว่าแม้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลก็ยังระบุถึงเรื่องนี้ไว้ในบทที่ว่าด้วย  Psalm ซึ่งระบุว่า
     "พวยควัญล่องลองออกจากนาสิกของพระองค์  และไฟออกจากพระโอษฐ"
    ข้อความนี้เองที่ชาวรัสตาฟาเรียนถือเป็นหลักฐานว่า  แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงเสพสมุนไพร อีกทั้งยังบอกให้ลูกหลานของพระองค์กระทำอย่างนั้นด้วย  บทวิวรณ์นั้นคือ
    "พฤษชาติและสายธารแห่งชีวิต....ใบแห่งพฤกษานั้นบำบัดโรคภัยใ้ห้แก่มวลมนุษย์  "
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

รายการบล็อกของฉัน